ยูรินะ ยานากิ หลังตัดสินใจหวนกลับมาถ่ายแบบแนววาบหวิวอีกครั้งในรอบ 5 ปี

ยูรินะ ยานากิ หวานใจของ ทาคุมิ มินามิโนะ ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่น สังกัด หงส์แดง ลิเวอร์พูล ตัดสินใจหวนกลับมาถ่ายแบบแนววาบหวิวอีกครั้งในรอบ 5 ปี

โดย โฟโต้ บุ๊คเล่มที่ 3 ในชีวิต ชื่อว่า “Women’s Plenty” ที่จะออกวางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่เธอตัดสินใจกลับมาถ่ายแบบเซ็กซี่ นอกจากนี้เธอยังเผยว่านี่จะเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของเธออีกด้วย

ซึ่ง นางแบบสาววัย 27 ปี ได้เดินทางไปร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว พร้อมทั้งเปิดใจเกี่ยวกับผลงานชิ้นใหม่ของเธอที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนๆ ที่ได้เห็นภาพตัวอย่างว่ามันเซ็กซี่เกินไป มีทั้งภาพเย้ายวน และการโชว์เรือนร่างแบบเต็มๆ

งาน โฟโต้ บุ๊ค ครั้งแรกก็ผ่านมาประมาณ 5 ปีแล้ว รู้สึกอย่างไรกับผลงานใหม่?
ฉันรู้สึกประหม่าเหมือนกับครั้งแรกที่ถ่ายงาน แม้ฉันจะเตรียมตัวมาอย่างดีก็ตามด้วยการนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ แถมหนนี้มีการจัดกิจกรรมแบบออนไลน์ให้พูดคุยกับแฟนๆ ได้ มันทำฉันเหงื่อตกเลยทีเดียว (หัวเราะ) แต่ฉันก็มีความสุขที่ได้พูดคุยกับพวกเขา”

ผลงานครั้งนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงกับผลงานครั้งก่อนบ้าง?
ฉันมีประสบการณ์มากขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นฉันคิดว่าผลงานชิ้นนี้สามารถสะท้อนการเติบโตนั้นได้ ผลงานภาพ “Women’s Plenty” เป็นเหมือนคำมั่นสัญญาว่าตอนนี้ฉันเป็นอย่างนี้ ฉันอยากให้ทุกคนได้ดู มันเป็นงานที่คุณสามารถสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวฉัน

ดูเหมือนว่าผลงานโฟโต้ บุ๊ค “Women’s Plenty” คุณจะมีส่วนร่วมมากกว่าแค่การเป็นแบบ ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อยได้หรือไม่?
มันเป็นการทำงานช่วงเวลาสั้นๆ ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องมีความรู้สึกเดียวกับทีมงาน เรามีการประชุมกันก่อนทำงานทุกครั้ง แสดงมุมมองต่างๆ ร่วมกัน และสุดท้ายทุกคนก็ถอนหายใจที่งานสามารถดำเนินไปด้วยดี

สำหรับ ยูรินะ ยานากิ เคยกลายเป็นกระแสโด่งดังในบ้านเกิด จากภาพยนตร์เรื่อง Junpei Think Again ที่ออกฉายในปี 2018 เมื่อเธอตัดสินใจเล่นฉากอีโรติกด้วยตัวเอง รวมทั้งมีฉากเปลือยหน้าอกมากมาย เรียกได้ว่าสั่นสะเทือนวงการกันเลยทีเดียว แถมยังได้ถูกนำไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์โลกมอนทรีออล

อย่างไรก็ตามปลายปี 2019 ชื่อของเธอก็กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง เมื่อมีข่าวหลุดออกมาว่ากำลังคบหาดูใจอยู่กับ ทาคุมิ มินามิโนะ ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่น สังกัด “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก่อนที่จะได้รับการยืนยันจากผู้จัดการของทั้งคู่ว่าเป็นความจริง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *